เพราะว่าการใช้ Dataจะไม่ใช่เรื่องอยากอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะร้านพ่อค้าแม่ค้า ที่เปิดร้านใหม่ๆ ก็ต้องทำคอนเทนต์ ยิง Ads กันมากขึ้น เพราะในโลกออนไลน์ปัจจุบันไม่ทำ Ads ก็ไม่มีคนเห็น เพื่อให้คนได้มองเห็นสินค้ามากขึ้น แต่ในระหว่างที่ลูกค้าเห็น Ads มากมายที่ขึ้นมา ลูกค้าก้มีตัวเลือกเยอะแยะไปหมดเลย เราจึงต้องทำ Ads ให้รู้ใจลูกค้า “เราควรจะโฆษราแบบไหนกับคนแบบไหน”
เพราะฉะนั้นการู้ใจไม่ได้หมายถึงการเอาใจลูกค้าเพียงอย่างเดียว มันหมายถึงการประหยัดเงินในการ Run โฆษณา ประหยัดเงินให้การทำคอนเทรนต์
“ลูกค้าเค้าชอบซื้อ แต่เค้าไม่ชอบถูกขาย” หมายความว่าอะไร เวลาเราไปเดินตฃาดเราเลือกในสิ่งต้องการ ตัวนี้ก็อยากได้ ตัวโน้นก็อยากได้ แต่เวลาที่คุณถูกขาย ยกตัวอย่างเช่นประกันโทรมาหาคุณ แล้วขายในสิ่งที่คุณไม่ได้อยากได้ แต่ต้องฟัง หรือบูทตามห้าง เรายังไม่อยากซ์้อเลย เราเลยอยากเอาตัวเองออกจากสิ่งนั้น มันอยู่ที่ว่าคุณร้ใจไหมว่าลูกค้าอยากได้อะไร ต้องการอะไร
โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มี Data เยอะขนาดนี้ ถ้าเรามีข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior) อยู่ก็นำข้อมูลเหล่านี้มาทำการวิเคราะห์ผล เพื่อให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การรัน Ads โฆษณามันถูกที่สุด ต้นทุนการได้ลูกค้าใหม่ๆ มามันถูกที่สุด
การทํา personalized วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ว่าเค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
จดจำได้ว่า ลูกค้าคนนี้ชอบทานอะไร การที่เราจะไปถึงจุดนั้นได้ คือการเอาข้อมูลการซื้อสินค้าของลูกค้ามาวิเคราะห์ โดยเฉพาะการซื้อซ้ำ มีการซื้อบ่อยครั้ง หรือจำนวนเยอะๆ เนื่องจากลูกค้าทุกคนไม่ได้ชอบสินค้าเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องเข้าใจว่าลูกค้าไม่เหมือนกัน ลูกค้าทุกคนสำคัญแต่ไม่เท่ากัน เราจึงควรให้ความสำคัญกับลูกค้าให้ตรงจุด
SME ก็สามารถนำข้อมูลการขายมาวิเคราะห์ข้อมูล ลูกค้าคนไหนซื้อเยอะ ลูกค้าคนไหนซื้อน้อย ลูกค้าคนไหนซื้อซ้ำ สำหรับ SME แล้วการซื้อซ้ำเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆเลย การซื้อซ้ำจะทำให้มูลค่าของลูกค้าเยอะขึ้น เราสามารถสร้างการซื้อซ้ำแบบง่าย ด้วยการส่งข้อมูล SMS แบ่งกลุ่มลูกค้า คนไหนนะคือลูกค้าชั้นดีของเรา นำข้อมูลไป Facebooklookalike ได้บน Facebook หรือสำหรับข้อมูลสินค้าบิลแรก เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก มันคือ การที่ลูกค้าเปิดใจในการซื้อได้ง่าย เห็นแล้วน่าซื้อ อยากซื้อ การนำข้อมูลคนเหล่านี้มา Run Ads หาลูกค้าใหม่ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราไปมองหาคนที่เหมือนกันคนกลุ่มๆ นี้ บน Facebook